ประเพณีบุญบั้งไฟ
จังหวัดยโสธร
“นิทานพื้นบ้านเล่าสืบต่อกันมา ผาแดงนางไอ่
พระยาคันคาก
ล้วนกล่าวถึงการจุดบั้งไฟถวายแด่พญาแถน
เพื่อเป็นการขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล
หลาบสิบปีได้สืบทอดงานประเพณีบุญบั้งไฟ
ความสวยงามของการตกแต่งขบวนที่ยิ่งใหญ่
ควันสีขาวพุ่งทะยานไปตามบั้งไฟแสนที่ขึ้นสู่ท้องฟ้า ตามมาด้วยเสียงดังสนั่น และเสียงลุ้นของผู้คน สุดเร้าได้ทุกครั้งไป”
เมื่อถึงเดือน ๖ ชาวอีสานจะมีการจัดงานประเพณีที่สำคัญ หนึ่งในฮีตสิบสอง
จากความเชื่อในการบูชาพญาแถนให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล พร้อมเข้าสู่การทำนาครั้งใหม่ และกล่าวกันว่าหากหมู่บ้านใด ชุมชนไหน
มิได้จัดงานประเพณีนี้ขึ้นในปีนั้นๆ
ฝนก็จะไม่ตก พื้นดินก็จะแห้งแล้งไม่สามารถทำการเพาะปลูกใดๆ
ได้
เมื่อถึงวันงาน
ก่อนการประกวดประชันบั้งไฟประเภทต่างๆ
จะมีขบวนแห่บั้งไฟตกแต่งด้วยสีสันที่สวยงาม
ตามมาด้วยเสียงดนตรีบรรเลงให้จังหวะในการเซิ้งบั้งไฟ เซิ้งกระติบ
ฟ้อนขาลาย
ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวอีสาน
และอีกหนึ่งสีสัน คือ ขบวนแห่การแต่งกายล้อเลียนบุคคล ผู้ชายบางคนสวมใส่ชุดหญิงสาวออกอากัปกิริยาอ่อนช้อย สร้างเสียงหัวเราะ และความสนุกสนานให้ผู้พบเห็น
การแข่งขันบั้งไฟของยโสธรมีการแบ่งเป็นประเภทแฟนซี บั้งไฟขนาดเล็กมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒ นิ้ว บรรจุดินประสิวไม่เกิน ๔ กิโลกรัม เน้นที่ความสวยงาม รวมทั้งลีลา
เมื่อจุดขึ้นฟ้าบางทีมอาจมีร่มหลากสีกางออก หรือมีเสียงประกอบ และประเภทบั้งไฟแสนซึ่งใช้แข่งขันกัน โดยนับจากเวลาที่บั้งไฟขึ้นลอยอยู่บนท้องฟ้า บั้งไฟของใครขึ้นนานที่สุด
สังเกตจากหางที่ตกลงสู่พื้นก็เท่ากับว่าขึ้นได้สูง และได้รับชัยชนะในที่สุด
เมื่อถึงเวลาแข่งขัน แต่ละทีมตระเตรียมความพร้อมก่อนจุดบั้งไฟให้ทะยานออกจากฐาน
พร้อมด้วยเสียงบั้งไฟแหวกอากาศที่แสดงถึงความเร็ว ทิ้งควันสีขาวไปตามเส้นทางสู่ท้องฟ้า ของใครยิ่งสูง
อยู่บนฟ้าได้นาน
ก็จะได้รับชัยชนะ
ส่วนทีมที่พ่ายแพ้ บั้งไฟระเบิด หรือไม่ขึ้นก็ต้องถูกกระชากลากลงไปในบ่อโคลนเป็นที่สนุกสนาน อันเป็นการสานความสามัคคีระหว่างชุมชน
และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานทุกครั้งไป
–
วันเวลาการจัดงาน : ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี
–
สถานที่จัดงาน : ณ สวนสาธารณะพญาแถน
และเขตเทศบาลเมืองยโสธร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น